แฟรนไชส์กาแฟสด จักรา Chakra Coffee Franchise อินเดียและเปอร์เซียสไตล์ เปิดตัวแล้วกับแบรนด์ใหม่ล่าสุดในวงการธุรกิจกาแฟเมืองไทย เน้นระดับการลงทุนระดับกลาง เลือกใช้แบรนด์ของตัวเองได้ ไม่มีค่ารายปีและรายเดือนไม่ต้องเซ็นสัญญา
ลูกค้าสามารถนำแบรนด์ไปใช้ได้ มีสูตรกาแฟสด ยอดฮิต ติดลมบน ให้นำไปชงขาย เป็นสูตรเดียวกันกับ ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซียที่รู้จักกันดีอยู่แล้วในตลาด ลงทุนเริ่มต้น 110,000 บาท ในทุกรูปแบบการลงทุนกับแฟรนไชส์กาแฟสด จักรา มีเครื่องชงกาแฟสดและเครื่องบดเมล็ดกาแฟคุณภาพดีให้ พร้อมอุปกรณ์บาริสต้าครบชุด เปิดร้านกาแฟสดได้ทันทีไม่ต้องหาซื้ออะไรเพิ่มเติมอีก
จากประสบการณ์การทำธุรกิจกาแฟมากว่า 8 ปีได้กลั่นออกมาเป็นแบรนด์ที่ทรงคุณค่าเต็มไปด้วยเรื่องราวที่เล่าขานกันรุ่นสู่รุ่นไม่มีวันจบสิ้น ซึ่งผู้บริหารคือคุณมาโนช อัทมารามานี ได้ทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จในแบรนด์ THE INDIAN TEA แล้วจึงได้สร้างแบรนด์นี้ขึ้นมาใหม่ โดยแบรนด์แฟรนไชส์กาแฟสด จักรา นี้จะเน้นไปที่กาลงทุนในกาแฟสด มีหลากหลายรูปแบบการลงทุนให้เลือก แต่ละรูปแบบได้เครื่องชงกาแฟสดและเครื่องบดเมล็ดกาแฟที่แตกต่างกัน ยิ่งรูปแบบการลงทุนที่ราคาสูงขึ้นประสิทธิภาพเครื่องก็สูงตาม
วัตถุดิบต่างๆ ถูกส่งให้สาขาโดยวิธีการทางไปรษณีย์ EMS ทั่วประเทศ ซึ่งใหม่สดตลอดเวลา ดูแลและควบคุมคุณภาพเป็นอย่างดี ไม่ใช้เมล็ดกาแฟเก่าเก็บ นอกจากนี้ยังไม่บังคับว่าต้องซื้อวัตถุดิบ ที่ใดให้ราคาถูกคุณภาพดี สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมเรียกได้ว่าไม่มีการบังคับอะไรใดๆทั้งสิ้น ขายกันได้อย่างสบายใจทำกำไรได้เต็มๆ เงินเข้ากระเป๋าผู้ลงทุนเน้นๆ
Advertising
![]() |
แฟรนไชส์กาแฟสดจักรา Chakra Coffee Franchise |
ลูกค้าสามารถนำแบรนด์ไปใช้ได้ มีสูตรกาแฟสด ยอดฮิต ติดลมบน ให้นำไปชงขาย เป็นสูตรเดียวกันกับ ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซียที่รู้จักกันดีอยู่แล้วในตลาด ลงทุนเริ่มต้น 110,000 บาท ในทุกรูปแบบการลงทุนกับแฟรนไชส์กาแฟสด จักรา มีเครื่องชงกาแฟสดและเครื่องบดเมล็ดกาแฟคุณภาพดีให้ พร้อมอุปกรณ์บาริสต้าครบชุด เปิดร้านกาแฟสดได้ทันทีไม่ต้องหาซื้ออะไรเพิ่มเติมอีก
จากประสบการณ์การทำธุรกิจกาแฟมากว่า 8 ปีได้กลั่นออกมาเป็นแบรนด์ที่ทรงคุณค่าเต็มไปด้วยเรื่องราวที่เล่าขานกันรุ่นสู่รุ่นไม่มีวันจบสิ้น ซึ่งผู้บริหารคือคุณมาโนช อัทมารามานี ได้ทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จในแบรนด์ THE INDIAN TEA แล้วจึงได้สร้างแบรนด์นี้ขึ้นมาใหม่ โดยแบรนด์แฟรนไชส์กาแฟสด จักรา นี้จะเน้นไปที่กาลงทุนในกาแฟสด มีหลากหลายรูปแบบการลงทุนให้เลือก แต่ละรูปแบบได้เครื่องชงกาแฟสดและเครื่องบดเมล็ดกาแฟที่แตกต่างกัน ยิ่งรูปแบบการลงทุนที่ราคาสูงขึ้นประสิทธิภาพเครื่องก็สูงตาม
วัตถุดิบต่างๆ ถูกส่งให้สาขาโดยวิธีการทางไปรษณีย์ EMS ทั่วประเทศ ซึ่งใหม่สดตลอดเวลา ดูแลและควบคุมคุณภาพเป็นอย่างดี ไม่ใช้เมล็ดกาแฟเก่าเก็บ นอกจากนี้ยังไม่บังคับว่าต้องซื้อวัตถุดิบ ที่ใดให้ราคาถูกคุณภาพดี สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมเรียกได้ว่าไม่มีการบังคับอะไรใดๆทั้งสิ้น ขายกันได้อย่างสบายใจทำกำไรได้เต็มๆ เงินเข้ากระเป๋าผู้ลงทุนเน้นๆ
สรุปประโยชน์จากการลงทุนกับแฟรนไชส์กาแฟสดแบรนด์ จักรา
1.ไม่มีค่าส่วนแบ่งการขาย
2.ไม่มีค่าแฟรนไชส์รายปี
3.ไม่มีค่าการตลาด
4.อบรม 1 วันเต็ม ตัวต่อตัว
5.ไม่บังคับซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์ ลงทุนครั้งแรกจบ
6.สามารถใช้แบรนด์เป็นของตนเองได้ จะไม่ใช้แบรนด์เราก็ได้
7.ไม่มีการเซ็นสัญญาผูกมัด
8.ลงทุนกับแฟรนไชส์กาแฟสด จักรา สามารถควบคุมการลงทุนตบแต่งร้านได้เอง สูงหรือต่ำขึ้นอยู่กับผู้ลงทุนเพราะเราไม่เข้าไปยุ่ง และไม่ทำกำไรจากค่าตบแต่งร้าน
9.ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจกาแฟสดฟรี
หลายเจ้ามากที่เปิดธุรกิจร้านกาแฟมาได้สักระยะนึงก็อยากขายแฟรนไชส์ จากท่านผู้ใกล้ชิดในตลาดนี้มานานเคยเล่าให้ฟังว่า สมมติต้นปี มีเปิดมา 100 เจ้า เป็นแฟรนไชส์กาแฟสดนี่ล่ะ ปลายปีจะเหลือ 10 เจ้า ไม่ก็เหลือแต่หน้าเดิมๆ ที่อยู่ในตลาดอยู่แล้ว ต่อมาก็จะค่อยๆล้มหาย ตายจากกันไป สาเหตุเพราะอะไร ถ้าให้วิเคราะห์ ตามหัวข้อดังต่อไปนี้
1.เป็นธุรกิจที่ใครๆก็เปิดได้ ร้านกาแฟสด ไปซื้อเครื่องทำกาแฟและเครื่องบดเมล็ดกาแฟ แล้วก็เรียนชงกาแฟสด ก็เปิดร้านได้แล้ว ผู้คนส่วนมากไม่ให้ความสนใจที่จะซื้อแฟรนไชส์
2.เงื่อนไขไม่จูงใจ สำหรับผู้สนใจลงทุน แต่ตั้งเงื่อนไขไว้ บีบรัดมากเกินไป และ มีการเก็บส่วนแบ่งการขายเป็นจำนวนเงินที่สูง
3.คู่แข่งเดิมในตลาดมีความเข้มแข็ง มีการแข่งขันกันสูง ทั้งลด แลก แจก แถม ผ่อน 0% จัดชุดในราคาต่ำมากๆ หากไม่มีจุดเด่น หรือ เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง นำเสนอรูปแบบการลงทุนที่จูงใจไม่ได้ ก็ขายไม่ได้
4.เงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอ ขาดเงิน ขาดใจ
5.หากแข่งขันตัดราคากัน ทำให้ กำไรไม่ได้มากอย่างที่คิด ทำไปสักพัก คิดว่าไปทำอย่างอื่นดีกว่า
6.ผู้ลงทุนนำแบรนด์แฟรนไชส์กาแฟสดที่ซื้อมาไปเปิดในที่ต่างๆแล้ว สู้กับเจ้าตลาดในที่นั้นๆไม่ได้ เนื่องจากลูกค้าไม่เห็นความแตกต่างและจุดเด่น ทำให้มีผู้ลงทุนแล้วต้องขาดทุน ปิดร้านจำนวนมาก ( ปัจจัยตรงนี้ ขึ้นอยู่กับการบริหารของผู้ลงทุนด้วย)
7.การลงทุนในอุปกรณ์ ที่สูง เครื่องทำกาแฟสดและเครื่องบดเมล็ดกาแฟมีราคาแพงมาก การจะลงทุนซื้อมาไว้ที่โชว์รูม หรือซื้อมาตุนไว้เพื่อขาย ถ้าเงินไม่เยอะจริง ทำให้เงินจม และในตลาดบางช่วงเวลามีการตัดราคากัน หลายครั้งต้องขายขาดทุน เมื่อต้องการเงินเข้ามาหมุนจ่ายค่าดำเนินกิจการ ก็ต้องขายของให้ได้ ก็ขายขาดทุน เงินก็หาย
8.ตั้งราคาค่าขายแฟรนไชส์ไม่ได้ดูถึงต้นทุนตัวเอง ว่าสู้เขาได้หรือเปล่า กระโดดลงไปตัดราคาแข่งกับคนอื่น โดยคิดว่าบวกราคาแค่นี้ก็กำไรแล้ว โดยไม่ได้คิดต้นทุนแอบแฝงสารพัด ที่ใช้ในการบริหาร หากไม่ใช่ธุรกิจใหญ่ ที่มีขีดความสามารถทางการแข่งขัน มีต้นทุนที่ต่ำจริงๆ แล้วไปทำราคาให้ต่ำสู้กับเจ้าอื่นๆ โดยที่ตนไม่มีจุดเด่นด้านอื่น ก็ทำให้ต้องปิดกิจการไป
9.ไม่มีความโดดเด่นและเอกลักษณ์ในแบรนด์ที่เพียงพอ ในความรู้สึกของผู้บริโภครายสุดท้าย ( END USER ) ที่รับรู้ ผู้ที่จะอยู่ในตลาดได้คือผู้ที่ได้รับการสนับสนุน จากผู้บริโภค หากผู้บริโภคไม่ซื้อดื่ม ไม่ใช้บริการก็จบ
10.ฤดูกาล ประเทศไทยมีฤดูกาลหนึ่งที่ยาวนาน น่ากลัวสำหรับธุรกิจนี้ คือ ฤดูฝน หากไม่วางแผนรองรับช่วงเวลานี้้ ที่คนจะลงทุนน้อยลงมากกว่า 50% จาก ฤดูปรกติ ทำให้ขาดทุนเพราะยังต้องจ่ายค่าจ้างพนักงานค่าบริหารงาน ค่าสื่อโฆษณาเหมือนเดิม ในขณะที่เงินไม่เข้า ก็ปิดกิจการตายหายไปกับสายน้ำ
สนใจแฟรนไชส์ติดต่อ คุณมาโนช 0-86777-49739.ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจกาแฟสดฟรี
การจากไปของธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟสด
หลายเจ้ามากที่เปิดธุรกิจร้านกาแฟมาได้สักระยะนึงก็อยากขายแฟรนไชส์ จากท่านผู้ใกล้ชิดในตลาดนี้มานานเคยเล่าให้ฟังว่า สมมติต้นปี มีเปิดมา 100 เจ้า เป็นแฟรนไชส์กาแฟสดนี่ล่ะ ปลายปีจะเหลือ 10 เจ้า ไม่ก็เหลือแต่หน้าเดิมๆ ที่อยู่ในตลาดอยู่แล้ว ต่อมาก็จะค่อยๆล้มหาย ตายจากกันไป สาเหตุเพราะอะไร ถ้าให้วิเคราะห์ ตามหัวข้อดังต่อไปนี้
1.เป็นธุรกิจที่ใครๆก็เปิดได้ ร้านกาแฟสด ไปซื้อเครื่องทำกาแฟและเครื่องบดเมล็ดกาแฟ แล้วก็เรียนชงกาแฟสด ก็เปิดร้านได้แล้ว ผู้คนส่วนมากไม่ให้ความสนใจที่จะซื้อแฟรนไชส์
2.เงื่อนไขไม่จูงใจ สำหรับผู้สนใจลงทุน แต่ตั้งเงื่อนไขไว้ บีบรัดมากเกินไป และ มีการเก็บส่วนแบ่งการขายเป็นจำนวนเงินที่สูง
3.คู่แข่งเดิมในตลาดมีความเข้มแข็ง มีการแข่งขันกันสูง ทั้งลด แลก แจก แถม ผ่อน 0% จัดชุดในราคาต่ำมากๆ หากไม่มีจุดเด่น หรือ เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง นำเสนอรูปแบบการลงทุนที่จูงใจไม่ได้ ก็ขายไม่ได้
4.เงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอ ขาดเงิน ขาดใจ
5.หากแข่งขันตัดราคากัน ทำให้ กำไรไม่ได้มากอย่างที่คิด ทำไปสักพัก คิดว่าไปทำอย่างอื่นดีกว่า
6.ผู้ลงทุนนำแบรนด์แฟรนไชส์กาแฟสดที่ซื้อมาไปเปิดในที่ต่างๆแล้ว สู้กับเจ้าตลาดในที่นั้นๆไม่ได้ เนื่องจากลูกค้าไม่เห็นความแตกต่างและจุดเด่น ทำให้มีผู้ลงทุนแล้วต้องขาดทุน ปิดร้านจำนวนมาก ( ปัจจัยตรงนี้ ขึ้นอยู่กับการบริหารของผู้ลงทุนด้วย)
7.การลงทุนในอุปกรณ์ ที่สูง เครื่องทำกาแฟสดและเครื่องบดเมล็ดกาแฟมีราคาแพงมาก การจะลงทุนซื้อมาไว้ที่โชว์รูม หรือซื้อมาตุนไว้เพื่อขาย ถ้าเงินไม่เยอะจริง ทำให้เงินจม และในตลาดบางช่วงเวลามีการตัดราคากัน หลายครั้งต้องขายขาดทุน เมื่อต้องการเงินเข้ามาหมุนจ่ายค่าดำเนินกิจการ ก็ต้องขายของให้ได้ ก็ขายขาดทุน เงินก็หาย
8.ตั้งราคาค่าขายแฟรนไชส์ไม่ได้ดูถึงต้นทุนตัวเอง ว่าสู้เขาได้หรือเปล่า กระโดดลงไปตัดราคาแข่งกับคนอื่น โดยคิดว่าบวกราคาแค่นี้ก็กำไรแล้ว โดยไม่ได้คิดต้นทุนแอบแฝงสารพัด ที่ใช้ในการบริหาร หากไม่ใช่ธุรกิจใหญ่ ที่มีขีดความสามารถทางการแข่งขัน มีต้นทุนที่ต่ำจริงๆ แล้วไปทำราคาให้ต่ำสู้กับเจ้าอื่นๆ โดยที่ตนไม่มีจุดเด่นด้านอื่น ก็ทำให้ต้องปิดกิจการไป
9.ไม่มีความโดดเด่นและเอกลักษณ์ในแบรนด์ที่เพียงพอ ในความรู้สึกของผู้บริโภครายสุดท้าย ( END USER ) ที่รับรู้ ผู้ที่จะอยู่ในตลาดได้คือผู้ที่ได้รับการสนับสนุน จากผู้บริโภค หากผู้บริโภคไม่ซื้อดื่ม ไม่ใช้บริการก็จบ
10.ฤดูกาล ประเทศไทยมีฤดูกาลหนึ่งที่ยาวนาน น่ากลัวสำหรับธุรกิจนี้ คือ ฤดูฝน หากไม่วางแผนรองรับช่วงเวลานี้้ ที่คนจะลงทุนน้อยลงมากกว่า 50% จาก ฤดูปรกติ ทำให้ขาดทุนเพราะยังต้องจ่ายค่าจ้างพนักงานค่าบริหารงาน ค่าสื่อโฆษณาเหมือนเดิม ในขณะที่เงินไม่เข้า ก็ปิดกิจการตายหายไปกับสายน้ำ
ธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟสดจากไปส่งผลกระทบกับผู้ลงทุน
1. ไม่มีวัตถุดิบที่จะส่งให้อีกแล้ว บริษัทฯ แม่ปิดแล้ว เอาวัตถุดิบที่ไหน ตรงนี้แก้ได้ คือการเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ หาแหล่งวัตถุดิบที่ดีราคาเหมาะสมเตรียมเอาไว้
2.หน้าร้าน บูธกาแฟสด ยังเป็นแบรนด์เดิมอยู่ ทั้งที่ใครๆก็เลิกทำไปแล้ว และก็รู้กันว่าเป็นแบรนด์ที่ล้มไปแล้วในตลาด ไม่มีความนิยม หมดความนิยมแล้ว แก้ได้โดย เปลี่ยนเคาน์เตอร์ใหม่ เอาไปปรับปรุงเป็นแบรนด์ของตนเอง
2.หน้าร้าน บูธกาแฟสด ยังเป็นแบรนด์เดิมอยู่ ทั้งที่ใครๆก็เลิกทำไปแล้ว และก็รู้กันว่าเป็นแบรนด์ที่ล้มไปแล้วในตลาด ไม่มีความนิยม หมดความนิยมแล้ว แก้ได้โดย เปลี่ยนเคาน์เตอร์ใหม่ เอาไปปรับปรุงเป็นแบรนด์ของตนเอง
3. หมดกำลังใจ เลิกขายดีกว่า ถ้าคนขายดีจะไม่หมดกำลังใจ ที่หมดกำลังใจเพราะแฟรนไชส์กาแฟสดที่ลงทุนขายไม่ดี ที่ปรึกษาก็ไม่อยู่แล้ว แก้ได้โดยหาที่ปรึกษาใหม่ดีๆ สักเจ้า
ทั้งหมดนี้หากจะแก้ปัญหาได้ต้องมีเงินเก็บ เพราะฉนั้นทำเงิน ได้ ต้องสำรองไว้เพื่อเกิดปัญหาในยามฉุกเฉินด้วย
จักรา พึ่งเปิดจะอยู่นานหรือไม่
เป็นแบรนด์ที่เติบโตมาจาก THE INDIAN TEA และ PERSIAN COFFEE จึงมีรากฐานที่มั่นคงแข็งแรง ผ่านฤดูกาลมาหลายฤดู กว่า 8 ปี ภายใต้การกำกับดูแลโดย บริษัท Perfect Destiny International จำกัด จึงมั่นใจได้ว่าแบรนด์นี้สามารถอยู่ได้อย่างมั่นคง ลูกค้าในกลุ่มกาแฟสดของ THE INDIAN TEA เป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าเปิดขายแล้วขายดี อยู่คงทนนานปี ทางบริษัทฯนำเสนอแบรนด์ให้เป็นทางเลือกอีกแบรนด์เท่านั้น
Advertising
No comments:
Post a Comment